ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ ผลงานไทยสู่ระดับโลก
ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ ผลงานไทยสู่ระดับโลก
50
ปี ไทยรุ่ง บริษัทคนไทยเตรียมพร้อมขยายสู่ตลาดโลก การันตีฝีมือด้วยรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติประจำปี
2560
สิ่งที่ผมอยากเห็นจริงๆนะ
คือผมอยากเห็นรถของหน่วยงานราชการหรือขบวนผู้นำประเทศใช้รถที่เป็นฝีมือโดยคนไทย
ในต่างประเทศเขาเป็นแบบนี้กันหมด
ดูอย่างจีนไม่ว่าประเทศไหนมาคุณต้องนั่งรถที่เราทำ”
คุณสมพงษ์
เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน)
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา
ถ้าพูดถึงยานยนต์ที่พัฒนาโดยคนไทยเราคงต้องนึกถึง ไทยรุ่ง ซึ่งเป็นบริษัทของคนไทย มีธุรกิจครอบคลุมทั้งการผลิต
จำหน่าย และบริการหลังการขาย มีสินค้าและบริการครบวงจร เช่น รถยนต์ Station Wagon ปัจจุบันมีรถ
TR
TRANSFORMER II ศูนย์บริการหลังการขาย
รถยนต์ทีอาร์ ผลิตแม่พิมพ์-จิ๊ก ชิ้นส่วนรถยนต์ที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง
โดยล่าสุดได้ส่ง TR
TRANSFORMER II เข้าสู่ตลาดยานยนต์ซึ่งการตอบรับค่อนข้างดีตามที่ตั้งเป้าเอาไว้
ขณะเดียวกัน ด้วยผลงานออกแบบสุดล้ำดีไซน์จากทีมงานคนไทย ส่งผลให้
TR
TRANSFORMER II ได้รับรางวัล ชนะเลิศนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี
2560 จากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ
กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และในปีนี้ยังเป็นปีสำคัญของการก้าวเข้าสู่ปีที่ 50 ของบริษัท ไทยรุ่ง
ยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งกรรมการผู้จัดการใหญ่อย่าง “สมพงษ์
เผอิญโชค” ก็ไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ยังคงมีโปรเจ็กต์ต่างๆอีกมายมายที่จะสร้างชื่อไทยรุ่งให้โลดแล่นอยู่ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของทั้งไทยและต่างประเทศ
คุณสมพงษ์
เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) ได้เปิดเผยถึงก้าวต่อไปของไทยรุ่งฯหลังจากนี้
ซึ่งจะเป็นอีกบทพิสูจน์ของการก้าวสู่ตลาดโลก ของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่เป็นของคนไทย อีกทั้งยังพูดถึงรางวัลแห่งความภูมิใจด้วยเช่นกัน
“ปีนี้ถือเป็นปีที่พิเศษนอกจากเราก้าวสู่ปีที่50ของการดำเนินธุรกิจแล้ว
เจ้ารถ TR TRANSFORMER
II ของเราก็เพิ่งได้รับรางวัลชนะเลิศ
ด้านเศรษฐกิจ ในการประกวดรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติประจำปี 2560
จัดขึ้นโดยสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ การประกวดแบบนี้เขามีมาตั้ง 13 ปีแล้ว มีผลงานเข้าประกวดกว่า
90 ผลงาน เราเป็นเจ้าเดียวที่ส่งผลงานด้านยานยนต์เพราะเราเป็นการสร้างนวัตกรรมอย่างแท้จริง
แล้วก็เป็นผลประโยชน์ที่เกิดต่อประเทศชาติ เราคิดและพัฒนาจากในประเทศถึง90%
เรานำพื้นฐานจากรถในประเทศแต่โครงสร้างตัวถังเราสร้างใหม่ทั้งหมด
กรรมการอาจพิจารณาจากปัจจัยเหล่านี้ด้วย และรางวัลดังกล่าวยังไม่มีรถยนต์จากบริษัทไหนหรือประเภทใดเคยได้รับมาก่อน
ถือเป็นสิ่งที่สร้างความภาคภูมิใจให้กับบริษัทเราเป็นอย่างมาก
เหมือนกับเป็นการฉลอง 50 ปี ของเราไปพร้อมกัน เราต้องคิดเยอะกว่าคนอื่นเพื่อสร้างรถของเราให้สู้กับเจ้าอื่นได้ทั้งการสร้างแม่พิมพ์การออกแบบต้องมีความต่างออกไป
สิ่งเหล่านี้เราถือว่าเด่นกว่าคนอื่น จุดเด่นของเราอีกอย่างคือการประกอบ เราใช้ชิ้นส่วนในเมืองไทยทั้งหมด
แล้วเราก็สามารถปรับดีไซน์ได้ตรงตามความต้องการของลูกค้าได้ทั้งหมดเพื่อให้ตรงความต้องการของลูกค้ามากที่สุด
นี่คือความเป็นไทยรุ่งครับ”
ขณะเดียวกันนอกจากเรื่องความสำเร็จด้านนวัตกรรมแล้ว
ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ยังเดินหน้าบนถนนสายธุรกิจเพื่อตอกย้ำผลงานคนไทย โดยล่าสุด คุณสมพงษ์
เผอิญโชค ยังได้พูดต่อไปอีกถึงโปรเจ็กต์สำคัญนับจากนี้เพื่อเฉลิมฉลองวาระ 50
ปีของไทยรุ่งซึ่งจะเป็นการต่อยอดจาก TR TRANSFORMER II
“เร็วๆ
นี้เราจะทำรุ่นฉลองครบ 50 ปี ที่จะเพิ่มความหรูหรายิ่งขึ้น
มีลุคที่ปราดเปรียวเป็นหนุ่มหล่อกว่าเดิม เนื่องจากที่ผ่านมาภาพลักษณ์ของ TR TRANSFORMER II อาจจะดูทหารออกแนวซีเรียสไปบ้าง
บางทีสามีชอบแต่ภรรยาบอกไม่เอา
ตรงนี้เราก็จะปรับให้ลูกค้าเข้าถึงง่ายดูทันสมัยครับ ประกอบกับการที่เราได้รับรางวัลจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติก็จะเป็นการยกระดับสินค้าของเรา
ซึ่งเราจะมีการสื่อสารออกไป โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือหน่วยงานรัฐ
เนื่องจากที่ผ่านมาภาครัฐสนับสนุนให้มีการจัดซื้อจัดจ้างนวัตกรรมของไทยโดยวิธีการพิเศษ
ทำให้เราได้รับความสนใจมากขึ้น ขณะที่ก่อนหน้านี้ก็มีหลายหน่วยงานที่บริษัทมีการส่งมอบรถออกไปไม่ว่าจะเป็น
กองทัพไทย
ที่ส่งมอบไป 14
คัน, กองทัพเรือ 3
คัน, เคไนน์ 2
คัน แล้วความหวังอีกอย่างที่ผมอยากเห็นนับจากนี้คือ ผมอยากเห็นจริงๆนะ
คือผมอยากเห็นรถของหน่วยงานราชการหรือขบวนผู้นำประเทศใช้รถที่เป็นฝีมือโดยคนไทย ในต่างประเทศเขาเป็นแบบนี้กันหมด
ดูอย่างจีนไม่ว่าประเทศไหนมาคุณต้องนั่งรถที่เราทำ”
และในส่วนของการตลาดนั้นไทยรุ่งยังคงเดินหน้าสู่ตลาดต่างประเทศตลอดด้วยการเปิดตลาดใหม่เสมอ
เดิมทีส่งไปยังมาเลเซีย, ศรีลังกา แต่ในปีนี้ได้ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ได้เข้าเจาะตลาดที่สิงคโปร์เป็นที่เรียบร้อย
ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการส่งรถต้นแบบไปให้คาดว่าจะได้ข้อสรุปของดีลนี้ในต้นปีหน้า
นอกจากนั้นแล้วกรรมการผู้จัดการใหญ่ฯ ยังมีการพูดคุยกับพันธมิตรที่ยุโรป
คาดว่าจะใช้เวลาอีก 2-3 เดือนน่าจะรู้ผล
ซึ่งหากทุกอย่างได้ข้อสรุปก็จะเป็นการเปิดตลาดของไทยรุ่งไปสู่ระดับโลก
และในอนาคตเราอาจจะทำยอดขายพุ่งไปสู่ 1,000-2,000
คันต่อปีได้
“ในขณะที่เรื่องของตัวเลขเราก็คงต้องบอกตามตรงว่า
ในส่วนของยอดขายตอนนี้เรายังทำได้ไม่ค่อยเป็นไปตามที่เราตั้งเป้าเอาไว้
ตัวเลขใกล้เคียงกับปี 59 แต่อาจจะดีกว่านิดหน่อย ตอนนี้เราส่งออกได้ 50 คัน
ต้องรอลุ้นปลายปีอีกทีว่าจะเพิ่มมากน้อยอีกแค่ไหน แต่ที่แน่ๆมีออเดอร์เข้ามาแล้ว
70 คัน รวมถึงองค์กรหลายๆหน่วยงานก็เริ่มติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ
หลังจากที่เราได้รับรางวัล คาดว่าการติดต่อกับหน่วยงานต่างๆ
ของภาครัฐหลังจากนี้จะทำได้ง่ายขึ้นและเป็นไปในทิศทางที่ดีอย่างแน่นอน
เป้าที่เราตั้งเอาไว้ของปี 60 ราว 300 คัน
ผมมั่นใจว่าช่วงโค้งสุดท้ายต้องเป็นไปได้ไม่ยากเกินไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าเราคาดหวังกับเป้าส่งออก
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้คุณภาพของสินค้าคือการได้รับการสนับสนุนที่ดีจากภาครัฐด้วย เราตั้งเป้า
300 คัน แบ่งเป็นในประเทศ 50%
และต่างประเทศ 50%
เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาที่ขายได้ 200
คัน และในปีหน้าหากภาครัฐเริ่มมีการสั่งซื้ออย่างจริงจังบวกกับออเดอร์จากต่างประเทศ
ก็คาดว่าจะมียอดขาย 400-500 คัน และในกรณีที่สิงคโปร์ได้ข้อสรุป
ก็จะมีคำสั่งซื้อจำนวนถึง1,000 คัน” คุณเผอิญโชค กล่าว
นอกจากรถยนต์รุ่น TR TRANSFORMER II รวมถึงรถตรวจการณ์ต่างๆ
ที่บริษัทไทยรุ่งฯมีอยู่ ในเวลานี้ธุรกิจยังได้ครอบคลุมถึงรถประเภทอื่น
ซึ่งไม่ได้ความแค่รถตลาดแต่ยังรวมถึงประเภทรถมินิบัส
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งธุรกิจน่าจับตามองเป็นพิเศษ ไทยรุ่งฯ
เองก็เตรียมแผนการตลาดของรถประเภทนี้เอาไว้เช่นกัน
“จากกรณีที่ภาครัฐประกาศให้มีการนำรถมินิบัสมาวิ่งแทนรถตู้
ทำให้ตลาดของมินิบัสมีโอกาสเติบโต เพราะปัจจุบันมีการประเมินกันว่ามีรถตู้จำนวน 1.6
หมื่นคัน หากกฎหมายเริ่มบังคับใช้ ก็คาดว่า 6-7
ปีข้างหน้าจะมีการปรับเปลี่ยน โดยไทยรุ่งมีการศึกษาโปรเจ็กต์นี้มานาน
คาดว่าต้นปีหน้าจะได้เห็น ส่วนรูปแบบการทำตลาดนั้นตอนนี้มองไว้ 2
ทางคือ ทำเองและใช้แบรนด์ไทยรุ่ง และทางที่ 2
คือ
จับมือกับพันธมิตร โดยตอนนี้มีหลายบริษัทที่อยากให้เราประกอบให้
ซึ่งเราประกอบให้ไม่ต้องกลัวเรื่องอะไหล่ แล้วในขณะนี้เราได้ขออนุญาตจัดตั้ง
ฟรีโซน แล้วจากภาครัฐ ซึ่งก็ได้รับการอนุมัติเรียบร้อย
ซึ่งจะทำให้เรามีความยืดหยุ่นขึ้นในแง่ของการที่จะนำเข้าชิ้นส่วนบางอย่างจากต่างประเทศเข้ามาได้
” กรรมการใหญ่ บริษัท
ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด (มหาชน) บอกถึงโครงการรถมินิบัส
แน่นอนว่าถ้าเป็นไทยรุ่งฯประกอบจุดแข็งของเขาเลยคือเรื่องของการเซอร์วิส
ถ้าในประเทศจะไม่ค่อยมีปัญหาอะไร
ออกจะเป็นเรื่องง่ายด้วยซ้ำไป เพราะอย่างที่ทราบกันว่ารถไทยรุ่งมีพื้นฐานมาจากโตโยต้า
ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาราคาไม่แพง อะไหล่มีตลอดไม่ต้องมาคอยสต๊อกไว้
ต่อให้คุณไปจังหวัดไหนก็ตามทุกที่เราพร้อมเซอร์วิสอยู่แล้ว ขณะเดียวกัน
คุณเผอิญโชค ยังได้อธิบายถึงเรื่อง ฟรีโซน ว่ามีข้อดีอย่างไร
“เราเคยประกาศเรื่องการขอเขตฟรีโซนหรือเขตปลอดอากรของโรงงานที่หนองแขม
ซึ่งตอนนี้ได้รับการอนุมัติมาเดือนกว่าแล้ว ทำให้ได้สิทธิประโยชน์เรื่องภาษี
และสร้างความได้เปรียบของการรับจ้างประกอบมากขึ้น
ส่วนความสนใจเรื่องการประกอบรถพีพีวี ก็ยังคงคิดอยู่ โดยต้องมีการสร้างความแตกต่าง
ไม่เหมือนกับรถที่มีอยู่ในตลาด ขณะที่การลงทุนใหม่ๆ ในปีนี้ยังไม่มี
เพราะโรงงานของเรายังมีกำลังการผลิตเหลือ ปัจจุบันโรงงานหนองแขมผลิตแค่เพียง 30%
เท่านั้น จากกำลังการผลิตทั้งหมด 5 หมื่นคัน”
ก่อนจบการสนทนา
คุณสมพงษ์ เผอิญโชค กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยรุ่งยูเนี่ยนคาร์ จำกัด
(มหาชน)ได้กล่าวทิ้งท้ายเกี่ยวกับการคาดการณ์ตลาดปีหน้าและการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดยานยนต์เอาไว้
“ปีนี้เราอาจไม่ได้ตามเป้าแต่คาดว่าปีหน้าจะเริ่มดีขึ้นเพราะมีตลาดส่งออกไปอาเซียน
ส่วนตลาดที่ได้รับผลกระทบอีกอันคือตะวันออกกลาง ซึ่งเดิมเราส่งกระบะพื้นเรียบไปตลาดนี้มากกว่า
70% ดังนั้นแนวทางในตอนนี้คือต้องมีการหาอะไรใหม่ๆ
เข้ามาทดแทน ส่วนรายได้ครึ่งปีแรกนั้น เราทำได้ 972.89
ล้านบาท ขณะที่เป้าหมายของทั้งปีนี้คาดว่าจะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมาคือ 1,800
- 1,900 ล้านบาท”
Post a Comment